หม่อน


ชื่ออื่น : มอน (ตะวันออกเฉียงเหนือ)
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Morus alba Linn.
ชื่อวงศ์ : MORACEAE

ลักษณะทางพฤกษศาสตร์ :

  • หม่อน เป็นไม้พุ่มขนาดกลาง เปลือกต้นสีน้ำตาลแดง ลำต้นตั้งตรง แตกกิ่งก้านไม่มากนัก
  • ใบหม่อน เป็นใบเดี่ยว เรียงสลับ รูปไข่ หรือรูปไข่กว้าง ขอบเรียบหรือหยักเว้าเป็นพู ขึ้นกับพันธุ์ กว้าง 8-14 เซนติเมตร ยาว 12-16 เซนติเมตร ผิวใบสากคาย ปลายเรียวแหลมยาว ฐานใบกลม หรือรูปหัวใจ หรือค่อนข้างตัด ใบอ่อนขอบจักเป็นพูสองข้างไม่เท่ากัน ขอบพูจักเป็นซี่ฟัน เส้นใบมี 3 เส้น ออกจากโคนยาวไปถึงกลางใบ และเส้นใบออกจากเส้นกลางใบ 4 คู่ เส้นร่างแหเห็นชัดด้านล่าง ใบสีเขียวเข้ม  ผิวใบสากคาย ก้านใบเล็กเรียว ยาว 1.0-1.5 เซนติเมตร หูใบรูปแถบแคบปลายแหลม ยาว 0.2-0.5 เซนติเมตร
  • ดอกหม่อน เป็นช่อ รูปทรงกระบอกออกที่ซอกใบ และปลายยอด แยกเพศอยู่บนต้นเดียวกัน ช่อดอกเพศผู้และช่อดอกเพศเมียอยู่ต่างช่อกัน วงกลีบรวมสีขาวหม่น หรือสีขาวแกมเขียว ช่อดอกเป็นหางกระรอก ยาวประมาณ 2 เซนติเมตร ดอกเพศผู้ วงกลีบรวมมี 4 แฉก เกลี้ยง เกสรเพศเมีย วงกลีบรวมมี 4 แฉก เกลี้ยง ขอบมีขน
  • ผลหม่อน จะอวบน้ำ รังไข่เกลี้ยง ก้านเกสรเพศเมียมี 2 อัน ผลเป็นผลรวม รูปทรงกระบอก มีสีเขียว เมื่อสุกสีม่วงแดงเข้ม เกือบดำ ฉ่ำน้ำ มีรสหวานอมเปรี้ยว รับประทานได้ ยอดอ่อนรับประทานได้ มักใช้ใส่แกงแทนผงชูรส หรือใช้เป็นอาหารต่างผัก พบทั่วไปในป่าดิบ ใบใช้เลี้ยงตัวไหม วัวควายที่กินใบหม่อนทำให้มีน้ำนมเพิ่มขึ้น
ส่วนที่ใช้เป็นยา : ใบ ผล เมล็ด เปลือก

สรรพคุณหม่อน :

  • ใบ รสจืดเย็น เป็นยาขับเหงื่อ แก้ไข้ แก้ตัวร้อน แก้ร้อนในกระหายน้ำ ทำยาต้มใช้อมแก้เจ็บคอ และทำให้เนื้อเยื่อชุ่มชื้น แก้ไอ ระงับประสาท หรือต้มเอาน้ำล้างตา แก้ตาแดง แฉะ ฝ้าฟาง
  • ใบแก่ ตากแห้งมวนสูบเหมือนบุหรี่ แก้ริดสีดวงจมูก ใบ แก้ไอ ระงับประสาท หรือต้มเอาน้ำล้างตา แก้ตาแดง แฉะฝ้าฟาง
  • ใบ ใช้ทำชามีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ
  • ราก ขับพยาธิ และเป็นยาสมาน ตากแห้งต้มผสมน้ำผึ้ง ยานี้จะมีรสหวานเย็น ใช้มากในโรคทางเดินหายใจ และการมีน้ำสะสมในร่างกายผิดปกติ ใช้แก้โรคความดันโลหิตสูง แขนขาหมดความรู้สึก กิ่งอ่อน ใบอ่อน แก้ไข้ แก้หวัด แก้ไอ
  • ใบ น้ำต้มและยาชง มีฤทธิ์เป็นยาชะล้าง ใช้ล้างตาแก้ตาอักเสบ
  • ใบอังไฟและทาด้วยน้ำมันมะพร้าวใช้วางบนแผล หรือตำใช้ทาแก้แมลงกัด เป็นยาขับเหงื่อ แก้ไอ ยาหล่อลื่นภายนอก น้ำต้มใบใช้กลั้วคอแก้เจ็บคอ ใช้ล้างตา แก้อาการติดเชื้อ ผสมกับหอมหัวใหญ่เป็นยาพอก รักษาแผลจากการนอนกดทับ
  • ผล รสเปรี้ยวหวานเย็น ต้มน้ำหรือเชื่อมกิน เป็นยาเย็น ยาระบายอ่อนๆ แก้ธาตุไม่ปกติ บรรเทาอาการกระหายน้ำ แก้โรคปวดข้อ ใช้แก้โรคได้เช่นเดียวกับเปลือกราก ใช้แก้ไข้ แก้เจ็บคอ ทำให้ชุ่มคอ บำรุงไต ดับร้อน ช่วยย่อย และเพื่อความสดชื่น
  • เมล็ด ใช้เพิ่มกากใยอาหาร
  • เปลือก เป็นยาระบาย และยาถ่ายพยาธิ
ข้อมูลจาก : www.samunpri.com

คลิปวีดีโอประโยชน์ของต้นหม่อน


 คลิปรายการ "หม่อน" กับ "เบาหวาน"


 คลิปรายการ "หม่อน" กับ "ความดัน"


 คลิปรายการ "หม่อน" กับ "คอเลสเตอรอล"


คลิปรายการ "หม่อน" กับ "อนุมูลอิสระ"


คลิปรายการ "หม่อน" กับ "ความเครียด"

_______________________________________________________________________________


คลิปการปลูกต้นหม่อน (มัลเบอรี่)


เทคนิคการโน้มกิ่ง ให้ได้ผลผลิตสูงขึ้นเป็นเท่าตัว


แนะนำสายพันธุ์หม่อน


เทคนิคการตัดแต่งกิ่งหลังปลูก


เทคนิคการเลี้ยงลำต้นให้สูงเพื่อดัดใช้ทำเป็นซุ้ม


เทคนิคการตัดเพื่อให้แตกยอดเป็นทรงพุ่ม


ต้นหม่อนที่มีอายุได้ 6 เดือน


เทคนิคการทำให้หม่อนออกผล


ระยะเวลาที่หม่อนออกผลจนถึงเก็บเกี่ยว

_______________________________________________________________________________


คลิปเทคนิคการขยายพันธุ์ต้นหม่อน (มัลเบอรี่)


วิธีเลือกกิ่งที่เหมาะสำหรับการขยายพันธุ์ด้วยการเพาะชำ


สูตรดินและวัสดุปลูกเพื่อเพาะชำกิ่ง


เทคนิคการชำกิ่ง


บทสรุปของการปลูกตั้งแต่ชำกิ่งไปจนให้ผลิตผลิต


การนำกิ่งตอนลงกระถาง


การนำต้นหม่อนลงดินเพาะปลูก


การปลูก ดูแล  ขยายพันธุ์


การตัดแต่งพุ่มหม่อน


วิธีการขยายพันธุ์มัลเบอร์รี่ด้วยการติดตา


วิธีการตอนกิ่งมัลเบอร์รี่ หม่อน


Share on Google Plus

About TheSorawee

Blog บันทึกนี้เป็นที่รวบรวมความรู้ด้านการเกษตรที่ค้นหาได้ตามความสนใจของผู้บันทึก ไม่ขอยืนยันว่าข้อมูลที่บันทึกและรวบรวมไว้มีความถูกต้องมากน้อยเพียงใด เนื่องจากไม่ได้เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านเกษตร แต่เป็นผู้ที่สนใจอยากเข้ามาเรียนรู้และอยากมีโอกาสได้ลงมือทำเท่านั้น หากจะให้นิยามของ BLOG นี้ว่าคืออะไร เราก็อยากจะนิยามของความรู้ด้านเกษตรใน BLOG คือ "เกษตรทฤษฎี copy_paste" อย่าได้เชื่ออะไรจนกว่าท่านจะได้พิสูจน์ด้วยตัวท่านเอง ดังนั้น ผู้บันทึกเองยินดีรับคำชี้แนะทุกสถานหากท่านจะเมตตาชี้แนะ แต่หากข้อมูลที่บันทึกทั้งหมดนี้จะเป็นประโยชน์ หรือจะเป็นแรงบันดาลใจของท่านใดให้ลงมือทำแบบจริงจัง ก็อย่าลืมแวะมาเล่าให้เราได้ฟังบ้างนะครับ ขอบคุณครับ

0 ความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น